SAMART ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2567 รายได้รวมกว่า 2 พันล้านบาท กำไรปกติสูงถึงกว่า 100 ล้านบาท ส่งผลให้ครึ่งปีแรกบริษัทฯ มีรายได้รวมมากกว่า 4 พันล้านบาท และมีกำไรปกติถึง 155 ล้านบาท ส่วนหุ้นกู้ผลตอบรับดี หลังปิดการขายไปเมื่อต้นเดือนส.ค. นักลงทุนรายใหญ่-สถาบัน มียอดซื้อไปแล้วกว่า 85%
วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2567 มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,104 ล้านบาท และมีกำไรปกติอยู่ที่ 101 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ประมาณการณ์หนี้สินระยะยาวจากกรณีข้อพิพาทกับคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 และการกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นจำนวนเงิน 283 ล้านบาท ซึ่งเป็นเหตุการที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 183 ล้านบาท
โดยสรุปผลการดำเนินงานของแต่ละสายธุรกิจในไตรมาส 2 ประจำปี 2567 ประกอบด้วย
- สายธุรกิจ Digital Communications หรือ “SDC” มีรายได้รวมกว่า 100 ล้านบาท จากธุรกิจให้บริการ Digital Trunked Radio System ปัจจุบันมีมูลค่างานในมืออยู่ที่ 1,139 ล้านบาท
- สายธุรกิจ Digital ICT Solutions หรือ “SAMTEL” มีรายได้รวม 739 ล้านบาท และกำไรสุทธิที่ 10.7 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทรอเข้าประมูลโครงการของทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และเอกชนจำนวนมากในครึ่งหลังของปี
- สายธุรกิจ Utilities and Transportations มีรายได้รวม 1,249 ล้านบาท รวมทั้งจากโครงการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการเก็บภาษีสรรพสามิตด้วย ส่งผลให้สายธุรกิจนี้มีมูลค่างานในมืออยู่ที่ 9,658 ล้านบาท
เมื่อรวมผลการดำเนินงานครึ่งปีแรก บริษัทมีรายได้รวมกว่า 4 พันล้านบาท กำไรปกติ 155 ล้านบาท (ก่อนตั้งสำรอง) หรือคิดเป็นร้อยละ 292 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้นถึง 45 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 82.5 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน
สำหรับหุ้นกู้ของบมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น ที่ปิดการเสนอขายไปเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคม เป็นหุ้นกู้อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ ร้อยละ 5.40 ต่อปี และจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน กระแสตอบรับคึกคักมีผู้ลงทุนสถาบัน และผู้ลงทุนรายใหญ่ สนใจซื้อหุ้นกู้ไปแล้วถึง 85% หรือมียอดซื้อกว่า 643 ล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นทางธุรกิจและสถานะทางการเงินของบริษัทได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ หากไม่รวมผลขาดทุนจากการประมาณการหนี้สินระยะยาวนี้ ไตรมาส 2/67 นี้ บริษัทจะมีกำไรปกติถึง 100 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเติบโตทางธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากธุรกิจก่อสร้างโครงการสายส่งสถานีไฟฟ้าแรงสูงแบบครบวงจร และธุรกิจด้านการให้บริการจัดการการจราจรทางอากาศที่ประเทศกัมพูชา จากสายธุรกิจ Utilities and Transportations และค่าบริการ Airtime จากสายธุรกิจ Digital Communications”
“บริษัทมั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลัง จะมีการเติบโตทั้งรายได้และกำไรจากการดำเนินงานจากทุกกลุ่มธุรกิจ” นายวัฒน์ชัยกล่าวปิดท้าย